..........ช่วงนี้คงจะถูกใจคอเน็ตกันนะครับ
เพราะทางองค์การโทรศัพท์เขาให้ใช้อินเตอร์เน็ตได้ฟรีๆ รวมไปถึง TT&T ด้วยเลยครับผม
บางส่วนก็จะรู้กันไปแล้ว
แต่ก็มีส่วนมากเหมือนกันที่ยังไม่ทราบ ผมจึงนำเสนอถึงวิธีการเข้าใช้อินเตอร์เน็ตฟรี
ขององค์การโทรศัพท์ รวมไปถึง TT&T ด้วยละกันครับ
วิธีการคอนเน็คเข้าอินเตอร์เนต TOT
ในการคอนเน็คนี้ผมจะขอเสนอวิธีที่ดีที่สุดเลยนะครับ ซึ่งวิธีนี้ไม่ต้องใช้ TOTcard ด้วย มีอยู่ 2 วิธีด้วยกันครับ
วิธีที่ 1
user name : U89$0y)9@totonline.net สามารถขอเองได้เลยครับผม
password : j4**9c+p
tel nember : 1222
วิธีที่ 2
user name : totonline@totonline.net
password : totonline
tel nember : 1222
วิธีไหนดีที่สุดนั้น เท่าที่ผมได้ทดลองใช้ดูแล้ววิธีที่แรก
จะสามารถใช้ได้เต็มที่มากกว่าวิธีที่ 1 ครับ คือสามารถใช้ได้เต็ม 2 ชั่วโมงจึงจะตัด
ส่วนวิธีที่2 นั้นรู้สึกจะใช้ประมาณ 30 นาที ถึง 1ชั่วโมงเท่านั้น
ใช้ proxy เสริมประสิทธิภาพ
ทำการเซ้ทใน Browser ที่ผมแนะนำนี้เป็นของ IE version 4.X ขึ้นไปด้วยการทำตามขั้นตอนดังนี้
1. เลือกคำสั่งที่ menu bar คำสั่ง Tools >> Internet Options...
2. เลือก Tap ที่ชื่อว่า Connections แล้ว click ที่ปุ่ม LAN Setting...
3. ใช้ mouse click ที่ชื่อง Use a Proxy Sever..
4. ทำการป้อนรายชื่อ proxy ที่มีให้ข้างล่างนี้ใส่เข้าไปได้เลย *หมายเหตุ* การเซ็ต
proxy ใช้ port 8080
การเพิ่มความเร็วในการเล่น อินเตอร์เน็ต ด้วยการตั้งใช้งาน
proxy server ของ ISP
ปัญหาอินเตอร์เน็ตที่มีความเร็วช้า เนื่องจากลิงค์ของ ISP หรือผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ที่เราใช้งานสำหรับต่อออกไปยัง ต่างประเทศมีน้อย โดยเฉพาะ อินเตอร์เน็ต ที่มีราคาค่อนข้างถูกกว่าที่อื่น อาจจะพอมีทางแก้ไขได้บ้าง โดยการตั้งให้ใช้ proxy server ของ ISP นั้น ๆ โดยที่ส่วนมากแล้ว ISP ทั่ว ๆ ไปจะมี proxy ให้เราเลือกใช้อยู่แล้ว
วิธีการตั้งใช้ proxy ของการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบที่ 2
สิ่งแรกที่ต้องมี คือค่าของ proxy server ซึ่งใน ISP ของแต่ละที่ก็จะไม่เหมือนกัน (ผมหามาให้อยู่ด้านล่าง) ต้องเข้าไปดูจากเว็บไซต์ของ ISP ที่เราใช้งาน ส่วนมากจะมีบอกไว้อยู่แถว ๆ Support หรืออยู่ในวิธีการตั้ง Dial-Up Networking นะครับ จดค่าของ proxy ของ ISP ที่เราใช้งานมาก่อน และเริ่มต้นการตั้ง โดยเลือกที่เมนู Tools >> Internet Options จากเมนูของ IE ครับ และเลือกที่ป้ายแถบ Connections
หลังจากนั้น ให้เลือกกดที่ Dial-up ที่ต้องการจะตั้งใส่ proxy และกดที่ Settings...
ในช่องของ Proxy server ก็ใส่ค่าของ proxy ตามที่ได้มาจากเว็บไซต์ของ ISP นะครับ อาจจะเป็นชื่อคล้าย ๆ ชื่อเว็บไซต์ หรืออาจจะเป็นชุดตัวเลข 4 ชุดก็ได้ ตาม proxy server ของ ISP แต่ละที่ อย่าลืมช่องของ Port ด้วยต้องใส่ให้ถูก (ส่วนใหญ่เป็น port: 8080) และกดเลือกที่ Use a proxy server ด้วย หลังจากนั้นก็กดที่ OK ครับ เป็นอันเสร็จ
สรุปการใช้ proxy มีขั้นตอนง่าย
ๆ คือ
1. เหมาะสำหรับ อินเตอร์เน็ตที่มีความเร็วช้า
ๆ
2. หาค่า proxy server จากเว็บไซต์ของ ISP ที่ใช้
3. ตั้งค่า proxy server ใน Dial-up connection
4. ถ้าข้อมูลไม่อัพเดท ให้กด Ctrl + Refresh
5. หากทดลองใส่แล้วไม่ดีขึ้น ก็เอาออกไปได้ครับ
รายชื่อ proxy
202.29.15.50
202.29.4.99
202.29.37.27
202.29.38.14
202.29.5.2
203.185.80.14
proxy.ksc.co.th
## เอาโฆษณาที่ไม่พึงประสงค์ออกไปจาก TOT ซะ คิคิ ##
กด Ctrl+Alt+Delete
เลือกไปที่ connect แล้วคลิกที่ End Task
รอสักครู่จะมี Dialogbox ขึ้นมา คลิกตรงปุ่มที่มีให้ เสร็จละนะหวังว่าคงทำได้ ง่าย
ๆ สบายมาก
* * ถ้ากดตรง Exit จะกลายเป็น Disconnect ทันทีนะ จบ !!
กรุณาระวังด้วยนะครับ เดี๋ยวเสียอีก 3 บาท อิอิ * *
แหล่งอ้างอิง : http://www.totonline.com
Modem V. 90
ซื้อ MODEM V.90 มาใช้แล้วแต่ผู้ให้บริการ
(ISP) ยังล้าหลังไม่ support modem V.90 จะต้องทำ อย่างไร โดยไม่ต้องกลับไปใช้โมเด็มตัวเก่าอีก
มีทางออกแน่นอนครับ ทำได้ 2 วิธี คือ
ใช้คำสั่ง Disable V.90 mode โดยใส่คำสั่งนี้ s32=66 ใน Advance Setting ของ MODEM
หรือ
โดยการใส่คำสั่งโดยตรงให้แก่ MODEM ที่ช่อง Advance Setting ใส่ค่า
AT + MS = 11,1,300,33600
หน้าฝนอย่างนี้สายหลุดบ่อยมากครับ ลองใส่ค่า string ให้กับโมเด็มตามตัวอย่างนี้ดูซิครับ
อาจช่วยคุณได้
S10=254 S25=50
มาดูวิธีการเซ็ตโมเด็มเพื่อทำให้สายไม่หลุดเวลาเล่นอินเตอร์เน็ต
:::::::: วิธีนี้อาจแก้ไม่ได้ 100 % แต่แค่เพียงแก้การหลุดแบบกระจุกกระจิกครับ::::::::
1. ให้คลิ๊กที่ Start แล้วไปที่ Settings
> Contral Panal > เลือกชนิดของโมเด็ม
2. หลังจากเลือกโมเด็มแล้ว ให้คลิ๊กเลือกโมเด็มที่เราใช้อยู่ และคลิ๊กที่ Properties
3. หลังจากนั้นคลิ๊กที่ Connection
> Advanced
4. หลังจากนั้นให้เติม s10=250 ตรงส่วน
Extra Settings ตามรูป
เสร็จแล้วครับ ปล.ตรงส่วนนี้เป็นการแก้ที่ปลายเหตุนะครับไม่ได้เป็นการแก้ที่ต้นเหตุ
ทำให้เว็บเพจอ่านภาษาไทยได้ในทุกบราวเซอร์
เทคนิคเพิ่มเติมสำหรับท่านที่ใช้ MS Frontpage หรือ Netscape Composer หรือโปรแกรม ประเภท WYSIWYG อื่น ๆ สร้างโฮมเพจให้คุณลบ Tag ของบรรทัดต่อไปนี้ทิ้งไปได้เลยครับ
<meta http-equiv="Content-Type"
content="text/html; charset=ISO-8859-1">
<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=x-user-defined">
เพราะจะเป็นการกำหนดให้บราวเซอร์ต้องใช้ฟอนต์ที่ตรงกับที่ระบุไว้ใน Tag เท่านั้น จึงไม่เหมาะกับการแสดงผลเป็นภาษาไทย ในกรณีที่ 2 จะอ่านภาษาไทยใน IE ไม่ได้ครับ แล้วมาใช้คำสั่งนี้แทนในส่วน HEAD
<meta http-equiv="Content-Type"
content="text/html; charset=windows-874">
<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=TIS-620">
ถ้าคุณอยากจะกำหนดรูปแบบการแสดงผลด้วยตัวอักษรภาษาไทย ลองใช้คำสั่งนี้ใน Body tag ดูซิครับ รับรองว่าอ่านภาษาไทยได้แน่นอนไม่ว่าจะใช้บราวเซอร์ใด จะเป็นเครื่อง Mac หรือ PC
<BODY FONT FACE="Thonburi, CordiaUPC, EucrosiaUPC, LilyUPC, AngsanaUPC, FixedDB ThaiText New, DB ThaiTextFixed, MS Sans Serif">
None Underline Link
การสร้าง Link แบบไม่มีขีดเส้นใต้ และไม่มีขอบเมื่อใช้ภาพเป็นจุดเชื่อม
ตัวอักษรไม่มีขีดเส้นใต้ให้ใส่คำสั่งนี้ไว้ด้วย style="text-decoration:none"
ต่อท้าย ไว้ใน Tag <A HREF="link.htm" style="text-decoration:none">
ลองดูนะครับ
อีกวิธีหนึ่งคือการใช้ Style Sheet ไว้ใน Tag Head ดังนี้ (แต่อาจจะไม่มีผลบังคับใน
บราวเซอร์รุ่นเก่าครับ)
<HEAD>
<TITLE> Test Style Sheet </TITLE>
<style>
a {
text-decoration:none;
}
<style>
</HEAD>
ไม่ให้ภาพมีขอบเมื่อเป็นจุดเชื่อม ให้เติม
border="0" ไว้หลัง Tag ของรูปภาพ
<A HREF="link.htm"> <IMG SRC="pict-1.gif" border="0">
</A>
Tricks in HTML
การใส่ย่อหน้าและเว้นวรรคระหว่างข้อความมากกว่าระยะ
1 ตัวอักษร ให้ใช้ตัวอักษรแทน ช่องว่างคือ &_nbsp_; (เวลาใช้งานจริงไม่มีขีด
_ นะครับ ที่ต้องใส่ในตัวอย่างเพื่อให้คุณ มองเห็นมันครับ) จะแทนได้เท่ากับ 1 ตัวอักษร
ต้องการเว้น 5 ตัวก็ใส่เข้าไป 5 ครั้ง เช่น
บรรทัดนี้ย่อหน้าด้วยการเว้นช่อง 5 ตัวครับ
การกำหนดย่อหน้าอีกวิธีหนึ่งคือการใช้ Style เข้าช่วย โดยใช้คำสั่งดังนี้ในย่อหน้านั้น (ใช้ได้ดีกับ IE เท่านั้น)
<p style="text-indent: 30"> ย่อหน้าที่ต้องการให้เยื้อง 30 คือจำนวนพิกเซล<p>
การสั่งให้เปิดหน้าต่างบราวเซอร์ใหม่ เมื่อคลิกที่
link ให้ใส่คำสั่ง target="_new" นี้ไว้หลัง Tag เชื่อมโยงครับ เช่น
<A HREF="link.htm" target="_new"> หรือจะใช้ target="_blank"
ก็ได้เหมือนกัน
คำสั่ง HTML ที่ทำให้มีการเปลี่ยนหน้าไปโดยอัตโนมัติในเวลาที่กำหนด ให้คุณใส่บรรทัด
ต่อไปนี้ไว้ที่ Tag <HEAD> ครับ
<HEAD>
<META HTTP-EQUIV="Refresh" CONTENT="x; URL=http://www.thai.net/speedway/about_us.html">
</HEAD>
ค่า x = จำนวนวินาที ที่คุณต้องการให้เปลี่ยนไปยังหน้าที่กำหนดใน
URL=?
คุณเบื่อที่จะแก้ไขวันที่ที่แสดงวันเวลาอัพเดทครั้งสุดท้ายของเว็บเพจไหมครับ
ผมคนหนึ่งล่ะ ที่ชอบลืม บางทีแก้ไขปรับปรุงไปแล้วตั้ง 2-3 ครั้งแต่วันที่ยังเหมือนเดิม
(ก็มันลืมนะ) ลองใช้ ชุด Script สั้น ๆ นี้ไปวางไว้ในตำแหน่งที่คุณต้องการให้แสดงผลการปรับปรุงครั้งสุดท้าย
ดูซิครับ (ได้ผลดีในเครื่องคุณ ส่วนในเซิร์ฟเวอร์คงต้องให้ Admin แต่ละที่เซ็ทวันเวลาให้
ถูกต้องครับ เพราะสคริปท์จะอ่านเวลาจากภายในเครื่องเซิร์ฟเวอร์มาเทียบกับวันเวลาที่
บันทึกไฟล์ครับ
<SCRIPT Language="JavaScript">
<!--document.write("Last Updated : "+document.lastModified) //-->
</SCRIPT>
(ถ้าคุณเลื่อนลงไปดูที่ท้ายของหน้านี้วันเวลาไม่ถูกต้อง
อย่าโทษผมเชียวนะ เกิดจากเวลา ในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่นี่ครับ งานนี้ผมไม่ผิด!
แน่นอน ฮา ๆ ๆ)
แนะนำสำหรับท่านที่อยากได้ Source code JAVA Script ไว้ประดับโฮมเพจ
เชิญคลิกที่นี่ ได้เลย โดย JesuswOrK
Midi Sound in Webpage
ใส่เสียงให้กับโฮมเพจของคุณด้วยไฟล์มิดี้ (*.mid) ต้องแยกเป็น 2 คำสั่งครับ เพราะว่า บราวเซอร์ของค่ายยักษ์ (IE & NN) ทั้งสองเขาไม่ยอมรับคำสั่งคนอื่นครับ คุณคงต้องเลือก ว่าจะใช้คำสั่งใดเพื่อให้ผู้ชมของคุณได้ยินเสียง (ระวัง! การใส่เสียงจะทำให้เว็บเพจของคุณ ช้าลงมากนะครับ อาจทำให้ผู้ชมของคุณเบื่อเอาง่าย ๆ) เฮ้อ! กุ้มใจไม่มี ล. ลิง จริง ๆ ครับ
ค่าย Netscape ให้ใช้คำสั่ง EMBED SRC ใน
Tag <BODY> ครับตามตัวอย่าง
<EMBED SRC="xxx.mid" AUTOSTART=true LOOP=true CONTROLS=smallconsole
WIDTH=50 HEIGHT=15>
ค่าย Microsoft ให้ใช้คำสั่ง BGSOUND แทน EMBED ครับ
<BGSOUND SRC="xxx.mid" AUTOSTART=true LOOP=true CONTROLS=smallconsole
WIDTH=50 HEIGHT=15>
ยังมีเทคนิคอีกมากมายครับ จะได้นำมาลงเพิ่มเติมให้เรื่อย
ๆ ครับ ขอทดลองดูก่อน เพราะ
การใส่ CSS ใน <HEAD>
การใช้ CSS แบบแรกที่ผมจะแนะนำก็คือการใส่มันลงไปในส่วน <HEAD>...</HEAD>
ซึ่งจะทำให้ มีผลทั่วทั้งเพจ
<HTML>
<HEAD>
<TITLE>ตัวอย่างการใช้ CSS</TITLE>
<STYLE TYPE="text/css">
BODY {background:black;
color:white;
}
H1 { font-size:24pt;
font-family:Comic Sans Ms,Cursive;
text-align :center
}
</STYLE>
</HEAD>
<BODY>
<H1>CSS Example</H1>
CSS Cool!
</BODY>
</HTML>
การใส่ Style Sheet ทำได้โดยใช้แท็ก <STYLE TYPE="text/css">...</STYLE>
และภายในนี้เราจะใส่ Style Sheet ลงไป โดยมีไวยากรณ์ดังนี้
element {
attribute : value;
attribute : value;
attribute : value;
...
}
จากตัวอย่างข้างต้น element ตัวแรกคือ BODY
มีการกำหนด attribute 2 ตัวคือ background และ color และ element อีกตัวคือ H1
ที่ถูกกำหนดฟอนต์ , ขนาดอักษร และการวางตัวให้อยู่ตรงกลาง
การใช้ CSS แบบ Import File
เอาล่ะ เพื่อให้การใช้ CSS ของเรามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แทนที่เราจะใส่มันไว้ใน
Head ของแต่ละเพจ เราจะแยกมันออกมาจากไฟล์หลักเลย เพื่อให้มันเป็นไฟล์ Style Sheet
100% หลังจากนั้นค่อยดึงมันเข้าไปใช้ในแต่ละเพจ ที่นี้เราเขียน Style Sheet เพียงครั้งเดียวก็สามารถใช้ได้ทั้งเวบไซต์เลย
สะดวกดีไหมล่ะ
วิธีการก็คือ แยกส่วนที่เป็น Style Sheet ออกมา แล้วเซฟไว้โดยมีส่วนขยายเป็น .css
BODY {background:black;
color:white;
}
H1 { font-size:24pt;
font-family:Comic Sans Ms,Cursive;
text-align :center
}
ข้างบนนี้ผมขอเซฟในชื่อ style.css นะครับ หลังจากนั้นผมก็จะ Import มันเข้ามาโดยใช้
โค้ดนี้ครับ
<link rel="stylesheet" type="text/css" href="style.css"
>
ดังนั้น ไฟล์ใหม่ของผมก็จะเป็นแบบนี้ ถ้ากด
view ดูก็จะได้ผลแบบเดิมครับ
<HTML>
<HEAD>
<TITLE>ตัวอย่างการใช้ CSS</TITLE>
<link rel="stylesheet" type="text/css" href="style.css" >
</HEAD>
<BODY>
<H1>CSS Example</H1>
CSS Cool!
</BODY>
</HTML>
การใช้ CSS แบบ inline
นอกจากวิธีใช้ 2 แบบที่แนะนำไปแล้ว ยังมีวิธีใช้อีกแบบหนึ่งครับ ใช้กำหนดใน Tag
แต่ละตัวเลย (คล้ายๆการใช้ <FONT> แบบเก่าแต่มีประสิทธิภาพมากกว่า)
วิธีการก็คือใช้ Attribute ชื่อ style ซึ่งมีอยู่ในแท็กของ HTML เกือบทุกตัว ซึ่งมีวิธีใช้ดังนี้ครับ
<TAGname STYLE="attribute:value;attribute:value;attribute:value;attribute:value;">
ข้างล่างนี้เป็นตัวอย่างการใช้ StyleSheet
แบบ Inline ครับ
<H1 STYLE="
font-size:24pt;
font-family:Comic Sans Ms,Cursive;
text-align :center">CSS Cool!</H1>